53011010224
วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2555
ทำความรู้จัก iCould
iCould คืออะไร ?? สำหรับหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบดีว่า iCould คืออะไร iColud คือ sever ขนาดใหญ่ที่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ไว้ และสามารถเรียกใช้ข้อมูลต่าง ๆ เหล่านั้นได้ทุกที่ทุกเวลา (แน่นอนว่าจะต้องใช้บริการอินเทอร์เน็ท นั่นคือต้องใช้ Wifi , 3G หรือ EDGE) แต่จะมีข้อจำกัดของการใช้งานอย่างไร เรามาดูรายละเอียดในการให้บริการ iCould ของ Apple กันดีกว่า iCould เป็นบริการใหม่ที่ทาง Apple เปิดตัวขึ้น และนำมาใช้แทนบริการ MobileMe ที่เคยทำหน้าที่รับ-ส่งข้อมูลของ “รายชื่อ, ปฏิทินนัดหมาย และอีเมล” แต่เมื่อได้มีการเปิดตัว iCould มาแล้ว ทาง Apple จะยังให้ใช้ MobileMe ได้ต่อไปได้อีก 1 ปีและน่าจะปิดตัวลง โดยในปัจจุบัน iCould สามารถที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้ดีกว่าบริการของ MobileMe และที่สำคัญคือ iCould ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้บริการเหมือน MobileMe iColud ทำอะไรได้บ้าง iCould ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลของเรา และรับ-ส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านสัญญาณ EDGE, 3G หรือ Wi-Fi ซึ่งโดยปกติในการใช้งาน iPhone , iPad , iPod เราจะต้องทำการ Sync ข้อมูลต่าง ๆ ผ่านทาง iTune โดยใช้คอมพิวเตอร์ แต่ iCould จะช่วยในการอำนวยความสะดวกที่มากกว่านั้น คือต่อไปนี้ หากเราต้องการให้ข้อมูลของเรา อาจจะเป็นรูป หรือเพลง หรืออื่น ๆ ที่เราต้องการ จากที่อยู่ใน iPhone ไปอยู่ใน iPad ของเราด้วยนั้น ไม่จำเป็นต้อง Sync ผ่านคอมพิวเตอร์ของเราอีกต่อไป เพราะบริการ iColud จะทำหน้าที่ดึงข้อมูลของเราจากทุก ๆ อุปกรณ์ที่เรามีโดยผ่าน iTunes Account ที่ปกติเราเอาไว้ใช้โหลด App ข้อมูลของทุก ๆ เครื่องที่ใช้ iTunes Account เดียวกันก็จะถูกเก็บขึ้นมารวมอยู่ที่ iCould แล้วส่งกลับข้อมูลเข้าไปในเครื่องอื่น ๆ ให้ตรงกัน เช่นถ้าเราถ่ายรูปใน iPhone รูปหนึ่ง ข้อมูลรูปภาพนี้จะถูกดึงขึ้นไปใน iCould และส่งกลับมายัง iPad , iPod , หรือ PC ในทันที iCould ทำหน้าที่ในการจัดเก็บข้อมูลทุกอย่างที่ในเครื่องต่าง ๆ ของเรามีและส่งกลับมายังเครื่องอื่น ๆ ที่ใช้ iTunes Account เดียวกัน ซึ่งเป็นเหมือนกับการ Black Up ข้อมูล หากเราซื้อเครื่องใหม่เราสามารถดึงข้อมมูลเดิมทั้งหมดของเราผ่าน iCould มายังเครื่องใหม่ได้ทันที
สรุปวิธีใช้ Google Plus
จากการได้ลองใช้ G+ สิบนาทีแรกจะรู้สึกงงๆ แต่พอเข้าใจหลักการมัน รู้สึกว่าใช้ง่ายมาก หลายๆ feature ทำได้เก่งกว่า Facebook ด้วย
การใช้ G+ ควรเข้าใจสิ่งต่างๆ ตามลำดับต่อไปนี้
1. จัดการ Circle
add เพื่อนแล้วลากเ้ข้า Circle เพื่อแบ่งกลุ่ม ซึ่งการแบ่ง Circle ย่อยๆ นี้จะไม่มีผู้ใช้คนอื่นมารู้ได้ว่าเราให้เพื่อนคนไหนไป อยู่ Circle ไหน อันนี้เป็นข้อดีมากๆ เราอาจจะแบ่ง Circle เป็นระดับเช่น เพื่อนที่ไม่เคยคุยกันก็ใส่ Circle a, เพื่อนรู้จักกันใส่ Circle b, เพื่อสนิท Circle c เป็นต้น2. หน้า Stream คล้ายๆหน้า Wall ของ Facebook
เวลาโพส Topic จะต้องเลือกก่อนว่าจะให้สิทธิ์ใครมองเห็น Topic ของเราได้บ้าง1. จัดการ Circle
add เพื่อนแล้วลากเ้ข้า Circle เพื่อแบ่งกลุ่ม ซึ่งการแบ่ง Circle ย่อยๆ นี้จะไม่มีผู้ใช้คนอื่นมารู้ได้ว่าเราให้เพื่อนคนไหนไป อยู่ Circle ไหน อันนี้เป็นข้อดีมากๆ เราอาจจะแบ่ง Circle เป็นระดับเช่น เพื่อนที่ไม่เคยคุยกันก็ใส่ Circle a, เพื่อนรู้จักกันใส่ Circle b, เพื่อสนิท Circle c เป็นต้น2. หน้า Stream คล้ายๆหน้า Wall ของ Facebook
Public คือเห็นหมดเลยทุกคน
Your Circle คือให้เห็นเฉพาะทุกคนที่เรา Add ไว้ใน Circle
Extended Circle คือให้คนใน Circle ของเพื่อนมองเห็นด้วย
Limit เป็น status ที่บอกว่าข้อความนี้กำหนดให้เห็นเฉพาะบาง Circle หรือบางคนเท่านั้น
เพิ่มเติม:
2.1 นอกจากนี้กรณีที่เราเพิ่งเพิ่มเพื่อนใหม่เข้า Circle x เพื่อนคนนี้ก็จะมองเห็นทุกๆ Topic ที่เราเคย
2.1 นอกจากนี้กรณีที่เราเพิ่งเพิ่มเพื่อนใหม่เข้า Circle x เพื่อนคนนี้ก็จะมองเห็นทุกๆ Topic ที่เราเคย
แชร์ไว้ให้ Circle x ทันที
http://www.plusplus.in.th/%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88/%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89-google-plus-%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A3.html
2.2 ข้อดีเหนือ Facebook คือ Topic ใครที่กำหนดเป็น public เราจะเข้าไปเขียน comment ได้เลยโดยไม่ต้องอยู่ใน Circle ของเจ้าของ Topic [+อัธยาศัยดี เกินไป]
3. เทคนิกการโพสข้อความ [+Alex Quinn]
• _ italic text _ ➜ italic text
• * bold text * ➜ bold text
• - strikethrough text - ➜strikethrough text (ใช้ได้เฉพาะกับภาษาอังกฤษเท่านั้น:+Chankit Yongpiyakul)
• mention คนอื่น@Alex Quinn หรือ +Alex Quinn ➜ +Alex Quinn
• หลังจากโพสแล้วคลิกที่ปุ่ม dropdown arrow (▽) ตรงขวาบน จะสามารถ Disable Comments จากคนอื่น หรือ Disable Reshare ไม่ให้คนเอา topic เราไป reshare ได้
• กด “k” หรือ “j” เพื่อเลื่อนขึ้นลงใน stream ได้
• กด Tab แล้วตามด้วย Enter หลังจากเขียน comment เสร็จ จะส่งข้อความให้ได้ สะดวกกว่าเอาเมาส์คลิก
• _ italic text _ ➜ italic text
• * bold text * ➜ bold text
• - strikethrough text - ➜
• mention คนอื่น@Alex Quinn หรือ +Alex Quinn ➜ +Alex Quinn
• หลังจากโพสแล้วคลิกที่ปุ่ม dropdown arrow (▽) ตรงขวาบน จะสามารถ Disable Comments จากคนอื่น หรือ Disable Reshare ไม่ให้คนเอา topic เราไป reshare ได้
• กด “k” หรือ “j” เพื่อเลื่อนขึ้นลงใน stream ได้
• กด Tab แล้วตามด้วย Enter หลังจากเขียน comment เสร็จ จะส่งข้อความให้ได้ สะดวกกว่าเอาเมาส์คลิก
4. event ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเราจะมี Notification เตือน ดูทางมุมขวาบน กล่องสีแดงๆ
เช่น
- มีคนมาตอบใน topic ของเรา
- เราไปโพส comment ใน topic คนอื่นแล้วมีคนมาโพสต่อจากเรา ก็จะมี notification มา
- มีคน mention เรา
เช่น
- มีคนมาตอบใน topic ของเรา
- เราไปโพส comment ใน topic คนอื่นแล้วมีคนมาโพสต่อจากเรา ก็จะมี notification มา
- มีคน mention เรา
นอกจากนี้เราสามารถคุยโต้ตอบใน topic นั้นๆ ผ่าน notification ได้เลย อันนี้สุดยอด สะดวกกว่า Facebook มากๆ
โดยสรุป
- ข้อเด่นของ G+ ที่สัมผัสได้ชัดเจนคือ เราสามารถ Add ใครก็ได้มาอยู่ใน Circle ของเรา โดยไม่ต้องรอการอนุมัติใดๆ
- ด้วยพลังของการจัดการ Circle ที่ดี ทำให้เราสามารถกำหนดการพูดคุยออกเป็นหลายๆ ระดับได้ ทำให้สามารถสร้างวงพูดคุยเฉพาะกลุ่มได้อย่างสะดวกมาก ๆ
- Notification เป็นศูนย์รวมการโต้ตอบกับ Event ต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)